เราเป็นทีมรับเหมามุงหลังคา ด้วยทีมช่างคุณภาพ ช่างหลังคาโมเดิร์นนครราชสีมา งานหลังคา ราคาไม่แพง ที่ใครๆต่างยอมรับในฝีมือ ซึ่งที่นี่มีความเป็นมืออาชีพรับประกันงานเสร็จไว รับเหมาทำหลังคานครราชสีมา มั่นใจได้ว่าผ่านมาตรฐานการติดตั้งอย่างมืออาชีพ มีการรับประกัน 5 ปี มั่นใจว่าหลังคาไม่รั่ว ใช้เวลาติดตั้ง พร้อมมุง 7 วันทำการ
ช่างหลังคาโมเดิร์นนครราชสีมา
ช่างหลังคานครราชสีมา
ช่างทําหลังคานครราชสีมา
ช่างทําหลังคาเมทัลชีทนครราชสีมา
ช่างทําหลังคาบ้านนครราชสีมา
รับเหมาทำหลังคานครราชสีมา
ช่างมุงหลังคาเมทัลชีทนครราชสีมา
ช่างโครงหลังคานครราชสีมา
ช่างทําหลังคาหน้าบ้านนครราชสีมา
รับเหมาทําหลังคาเมทัลชีทนครราชสีมา
ช่างเหล็กโครงหลังคานครราชสีมา
ช่างมุงหลังคากระเบื้องนครราชสีมา ติดต่อใช้บริการ
ต่อเติมบ้าน โครงหลังคา กันสาดหน้าบ้าน ต่อเติมห้องครัว ทำรั้วประตูสแตนเลส กระจกอลูมิเนียม รางน้ำฝน สร้างบ้าน รีโนเวทบ้าน บิ้วอิน ตกแต่ง
ผ้าม่าน ฉากกั้นห้อง




1. สำรวจพื้นที่โดยรอบ
ควรสำรวจพื้นที่ที่จะสร้างบ้าน และบริเวณโดยรอบก่อนจะเริ่มออกแบบบ้าน เพราะพื้นที่จะส่งผลต่อรูปร่าง และขนาดบ้านโดยตรง ส่วนการสำรวจบริเวณโดยรอบว่าอยู่ติดกับอะไรหรือพื้นที่จะถูกพัฒนาเป็นอะไรได้บ้างในอนาคต การสำรวจจะช่วยเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ในอนาคต และออกแบบได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
2. สร้างให้เข้ากับสภาพอากาศ
สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในการสร้างบ้านทรงโมเดิร์น คือ การออกแบบให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ช่างทําหลังคาบ้านนครราชสีมา เนื่องจากบ้านสไตล์นี้มีจุดเริ่มต้นจากประเทศฝั่งตะวันตกที่มีอากาศหนาวจึงต้องออกแบบบ้านเพื่อป้องกันความหนาว ดังนั้นจึงต้องปรับรูปแบบบ้านให้เข้ากับอากาศด้วย เช่น ออกแบบให้เพดานสูงขึ้น ติดตั้งช่องลมให้อากาศถ่ายเทให้ดี หรือเลือกใช้สีทาบ้านที่สะท้อนความร้อนเพื่อลดการสะสมความร้อนในบ้าน
3. ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ถึงแม้ว่าบ้านสวย ๆ จะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน แต่ที่จริงแล้วการสร้างบ้านควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นหลัก ช่างต่อเติมหลังคานครราชสีมา ควรออกแบบบ้านให้เข้ากับลักษณะการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
4. คำนึงถึงการใช้งานระยะยาว
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการออกแบบบ้านต้องคำนึงถึงการใช้งานของทุกคนในครอบครัว อย่างไรก็ตามอย่าลืมคิดถึงอนาคตด้วย หลาย ๆ คนเลือกที่จะสร้างบ้านให้มีลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นสูง-ต่ำ แต่เมื่อมีอายุมากขึ้นลูกเล่นจากการออกแบบเหล่านี้ จะหมดความสวยงาม และเปลี่ยนเป็นข้อเสียต่อร่างกายแทนได้
5. ตำแหน่งหน้าต่างต้องดูให้ดี
หน้าต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านสไตล์โมเดิร์น รับเหมาโครงหลังคานครราชสีมา เพราะการออกแบบบ้านตามรูปทรงเลขาคณิตอาจทำให้บรรยากาศโดยรวมดูอึดอัดได้ ดังนั้นการติดตั้งหน้าต่างรอบ ๆ บ้านเพื่อให้แสงสว่างเข้าถึงได้มากที่สุด จึงช่วยเพิ่มความสบายตาได้เป็นอย่างดี
6. ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว
พื้นที่สีเขียวรอบบ้านเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านแบบโมเดิร์น เพราะทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ร่มรื่นมากขึ้น ไม่แข็งทื่อจนเกินไป การมองเห็นสวนสวย ๆ ด้านนอกได้อย่างชัดเจนจากทุกบริเวณของบ้าน มีส่วนช่วยทำให้คนในบ้านได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมอบความร่มเย็นแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
7. เลือกโทนสีธรรมชาติ
โทนสีธรรมชาติจะช่วยทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น และมีความรู้สึกผ่อนคลาย สีที่เหมาะสมคือ สีขาว สีน้ำตาลอ่อน หรือสีเทาอ่อน โดยเป็นโทนสีที่เข้าได้กับทุกเฟอร์นิเจอร์แทบทุกสไตล์ นอกจากนี้ควรเลือกใช้แสงไฟโทนอุ่นที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตา และผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น
8. ไม่ตกแต่งแบบฟุ่มเฟือย
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า บ้านโมเดิร์นเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นการใช้งานมากกว่าการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย รับเหมาทําหลังคานครราชสีมา ทุกพื้นที่ภายในบ้านสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และควรเลือกใช้วัสดุที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เน้นการแสดงพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ตกแต่ง เช่น ไม้ เหล็ก คอนกรีต
9. เลือกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย
บ้านแบบโมเดิร์นนั้นเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย และแฝงไปด้วยความทันสมัย เพราะฉะนั้นควรเลือกแบบเฟอร์นิเจอร์สีคุมโทนตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่าย รวมถึงมีเฉดสีอ่อนที่สบายตา สามารถเข้ากับสีผนังได้เกือบทุกเฉด
10. มีดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ
สุดท้ายคือการแสดงเอกลักษณ์ของแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ด้วยการออกแบบบ้านให้มีลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเลือกใช้ของแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าของแต่งบ้านชิ้นอื่น เฟอร์นิเจอร์ที่มาพร้อมดีเทลเก๋ ๆ รวมถึงช่องเก็บของที่มีประโยชน์ใช้สอยได้หลายรูปแบบ
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญของการสร้างบ้าน คือ การเลือกช่างที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญเกี่ยวกับการสร้างบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนี้การสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ

การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว