เราเป็นทีมรับเหมามุงหลังคา ด้วยทีมช่างคุณภาพ ช่างหลังคาโมเดิร์นกระบี่ งานหลังคา ราคาไม่แพง ที่ใครๆต่างยอมรับในฝีมือ ซึ่งที่นี่มีความเป็นมืออาชีพรับประกันงานเสร็จไว รับเหมาทำหลังคากระบี่ มั่นใจได้ว่าผ่านมาตรฐานการติดตั้งอย่างมืออาชีพ มีการรับประกัน 5 ปี มั่นใจว่าหลังคาไม่รั่ว ใช้เวลาติดตั้ง พร้อมมุง 7 วันทำการ
ช่างหลังคาโมเดิร์นกระบี่
ช่างหลังคากระบี่
ช่างทําหลังคากระบี่
ช่างทําหลังคาเมทัลชีทกระบี่
ช่างทําหลังคาบ้านกระบี่
รับเหมาทำหลังคากระบี่
ช่างมุงหลังคาเมทัลชีทกระบี่
ช่างโครงหลังคากระบี่
ช่างทําหลังคาหน้าบ้านกระบี่
รับเหมาทําหลังคาเมทัลชีทกระบี่
ช่างเหล็กโครงหลังคากระบี่
ช่างมุงหลังคากระเบื้องกระบี่ ติดต่อใช้บริการ
ต่อเติมบ้าน โครงหลังคา กันสาดหน้าบ้าน ต่อเติมห้องครัว ทำรั้วประตูสแตนเลส กระจกอลูมิเนียม รางน้ำฝน สร้างบ้าน รีโนเวทบ้าน บิ้วอิน ตกแต่ง
ผ้าม่าน ฉากกั้นห้อง




1. สำรวจพื้นที่โดยรอบ
ควรสำรวจพื้นที่ที่จะสร้างบ้าน และบริเวณโดยรอบก่อนจะเริ่มออกแบบบ้าน เพราะพื้นที่จะส่งผลต่อรูปร่าง และขนาดบ้านโดยตรง ส่วนการสำรวจบริเวณโดยรอบว่าอยู่ติดกับอะไรหรือพื้นที่จะถูกพัฒนาเป็นอะไรได้บ้างในอนาคต การสำรวจจะช่วยเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ในอนาคต และออกแบบได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
2. สร้างให้เข้ากับสภาพอากาศ
สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในการสร้างบ้านทรงโมเดิร์น คือ การออกแบบให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ช่างทําหลังคาบ้านกระบี่ เนื่องจากบ้านสไตล์นี้มีจุดเริ่มต้นจากประเทศฝั่งตะวันตกที่มีอากาศหนาวจึงต้องออกแบบบ้านเพื่อป้องกันความหนาว ดังนั้นจึงต้องปรับรูปแบบบ้านให้เข้ากับอากาศด้วย เช่น ออกแบบให้เพดานสูงขึ้น ติดตั้งช่องลมให้อากาศถ่ายเทให้ดี หรือเลือกใช้สีทาบ้านที่สะท้อนความร้อนเพื่อลดการสะสมความร้อนในบ้าน
3. ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ถึงแม้ว่าบ้านสวย ๆ จะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน แต่ที่จริงแล้วการสร้างบ้านควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นหลัก ช่างต่อเติมหลังคากระบี่ ควรออกแบบบ้านให้เข้ากับลักษณะการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
4. คำนึงถึงการใช้งานระยะยาว
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการออกแบบบ้านต้องคำนึงถึงการใช้งานของทุกคนในครอบครัว อย่างไรก็ตามอย่าลืมคิดถึงอนาคตด้วย หลาย ๆ คนเลือกที่จะสร้างบ้านให้มีลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นสูง-ต่ำ แต่เมื่อมีอายุมากขึ้นลูกเล่นจากการออกแบบเหล่านี้ จะหมดความสวยงาม และเปลี่ยนเป็นข้อเสียต่อร่างกายแทนได้
5. ตำแหน่งหน้าต่างต้องดูให้ดี
หน้าต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านสไตล์โมเดิร์น รับเหมาโครงหลังคากระบี่ เพราะการออกแบบบ้านตามรูปทรงเลขาคณิตอาจทำให้บรรยากาศโดยรวมดูอึดอัดได้ ดังนั้นการติดตั้งหน้าต่างรอบ ๆ บ้านเพื่อให้แสงสว่างเข้าถึงได้มากที่สุด จึงช่วยเพิ่มความสบายตาได้เป็นอย่างดี
6. ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว
พื้นที่สีเขียวรอบบ้านเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านแบบโมเดิร์น เพราะทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ร่มรื่นมากขึ้น ไม่แข็งทื่อจนเกินไป การมองเห็นสวนสวย ๆ ด้านนอกได้อย่างชัดเจนจากทุกบริเวณของบ้าน มีส่วนช่วยทำให้คนในบ้านได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมอบความร่มเย็นแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
7. เลือกโทนสีธรรมชาติ
โทนสีธรรมชาติจะช่วยทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น และมีความรู้สึกผ่อนคลาย สีที่เหมาะสมคือ สีขาว สีน้ำตาลอ่อน หรือสีเทาอ่อน โดยเป็นโทนสีที่เข้าได้กับทุกเฟอร์นิเจอร์แทบทุกสไตล์ นอกจากนี้ควรเลือกใช้แสงไฟโทนอุ่นที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตา และผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น
8. ไม่ตกแต่งแบบฟุ่มเฟือย
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า บ้านโมเดิร์นเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นการใช้งานมากกว่าการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย รับเหมาทําหลังคากระบี่ ทุกพื้นที่ภายในบ้านสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และควรเลือกใช้วัสดุที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เน้นการแสดงพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ตกแต่ง เช่น ไม้ เหล็ก คอนกรีต
9. เลือกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย
บ้านแบบโมเดิร์นนั้นเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย และแฝงไปด้วยความทันสมัย เพราะฉะนั้นควรเลือกแบบเฟอร์นิเจอร์สีคุมโทนตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่าย รวมถึงมีเฉดสีอ่อนที่สบายตา สามารถเข้ากับสีผนังได้เกือบทุกเฉด
10. มีดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ
สุดท้ายคือการแสดงเอกลักษณ์ของแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ด้วยการออกแบบบ้านให้มีลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเลือกใช้ของแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าของแต่งบ้านชิ้นอื่น เฟอร์นิเจอร์ที่มาพร้อมดีเทลเก๋ ๆ รวมถึงช่องเก็บของที่มีประโยชน์ใช้สอยได้หลายรูปแบบ
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญของการสร้างบ้าน คือ การเลือกช่างที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญเกี่ยวกับการสร้างบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนี้การสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ

การคมนาคม
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว – จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร – จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอบ้านนาเดิมใช้ทางหลวงหมายเลข 44 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 783 กิโลเมตร -จากภูเก็ตการเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร
สามารถไปได้ 3 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ผ่าน จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา จนถึง จ.กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ถึง จ.ชุมพร แล้วต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เข้าสู่ อ.ไชยา อ.เวียงสระ จ.สุราษฏร์ธานี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4035 ถึง อ.อ่าวลึก แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้ง เข้าสู่ จ.กระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
เส้นทางที่3 จากจังหวัดภูเก็ต ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 402 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ทับปุด จ.พังงา เข้าสู่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ระยะทาง 185 กิโลเมตร
2.รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน บริษัท ลิกไนท์ ทัวร์ สายกรุงเทพฯ-กระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง
3.เส้นทางรถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ลงได้ 3 สถานี คือ
1.สถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร
2.ชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
3.สถานีรถไฟตรัง จ.ตรัง แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์โดยสาร ไปยัง จ.กระบี่ ระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร
4.โดยเครื่องบิน
ปัจจุบันมีสายการบินภายในประเทศ คือ การบินไทย แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์
สถานที่ท่องเที่ยว